1. ซื้อเมล็ดกาแฟที่สดใหม่
แน่นอนว่ากาแฟที่ได้คุณภาพ จะต้องเลือกเมล็ดกาแฟคั่วที่อยู่ในช่วงเวลาที่กำหนด ไม่เกินเวลาที่ระบุเวลาหมดอายุสำหรับการใช้งาน ควรเลือกซื้อเมล็ดกาแฟคั่วจากในท้องถิ่นของเราเองหรือหากเรามีความรู้สามารถคั่วเองก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก และข้อสำคัญคือหลีกเลี่ยงและระวังการซื้อเมล็ดกาแฟจากซุปเปอร์มาร์เก็ตที่นำกาแฟออกมาเลหลัง ที่ขายถูกๆคราวละมากๆ เพราะนั่นเป็นสัญญาณของอายุกาแฟที่ใกล้จะหมดลง สำหรับอ๊อกซิเจนและแสงสว่างนั่นจะเป็นตัวที่ทำให้รสชาติของกาแฟเสียไป ควรเลือกซื้อกาแฟที่บรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการซีลเป็นอย่างดีโดยให้มองหาการซีลแบบสูญญากาศ
2. เก็บรักษาเมล็ดกาแฟที่เปิดแล้วให้ดี
เมื่อเมล็ดกาแฟที่เราซื้อมาถูกเปิดใช้งานแล้วต้องเก็บรักษาให้ถูกวิธี ควรเลือกซื้อเมล็ดกาแฟที่เก็บไว้ได้อย่างน้อย 5-7 วันหลังจากที่เปิดแล้ว โดยแนะนำให้เก็บไว้ในโหลแก้วหรือภาชนะเซรามิกที่มีฝาปิดมิดชิด โดยที่ฝาปิดควรมียางป้องกันอากาศเข้า-ออกได้ โดยเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงการเก็บในตู้เย็นเพราะจะทำให้เมล็ดกาแฟอมความชื่นและเสียรสชาติไป
3. เลือกกาแฟที่ดี
การเลือกใช้สายพันธุ์กาแฟที่ดีนั้น ผู้เชี่ยวชาญและนักชิมกาแฟให้เรามองหากาแฟที่ใช้สายพันธุ์อาราบิก้า 100% ซึ่งบางครั้งกาแฟที่ราคาถูกกว่าจะมีการผสมกาแฟโรบัสต้าเข้าไปด้วย เนื่องจากว่ากาแฟโรบัสต้านั้นมีคาเฟอีนที่สูงกว่าแต่ทำให้ได้รสชาติที่รุนแรงกว่า
4. ใส่ใจการบดกาแฟ
รสชาติของกาแฟเริ่มเสียไปในขั้นตอนของกระบวนการบดกาแฟ ให้คุณใส่ใจคุณภาพของเครื่องบดกาแฟ เพราะว่ารสชาติที่ดีที่สุดของกาแฟนั้น ได้มาจากการใช้กาแฟที่บดแล้วชงเลย ไม่ควรบดไว้นาน ซึ่งแน่นอนว่าการบดกาแฟด้วยตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่ดี การซื้อเครื่องบดกาแฟไฟฟ้าให้เลือกยี่ห้อที่มีคุณภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของใบมีดต้องดีและได้มาตรฐาน ควรบดกาแฟเท่าที่ชงแก้วต่อแก้วจะได้รสชาติที่ดีกว่า
5. ใช้น้ำที่มีุคุณภาพ
หลีกเลี่ยงการใช้น้ำประปาที่คิดว่าเอามาต้มแล้วคลอรีนจะหายไป หรือน้ำที่ได้จากเครื่องกรองน้ำทั่วไป นักดื่มกาแฟตัวยงเน้นในเรื่องน้ำเป็นอย่างยิ่ง แนะนำให้ใช้น้ำจากน้ำแร่ธรรมชาติหรือน้ำแร่ยี่ห้อต่างๆหรือน้ำที่ได้รับการกรองจากเครื่องกรองน้ำที่มีระบบการกรองด้วยถ่านคาร์บอน เพราะแร่ธาตุธรรมชาติที่อยู่ในน้ำแร่นั้นเป็นสิ่งจำเป็น หลีกเลี่ยงการใช้น้ำที่ไม่มีแร่ธาตุ เช่น น้ำที่กรองจากระบบรีเวิร์สออสโมซิสที่กรองเอาแร่ธาตุออกไปหมด
6. หลีกเลี่ยงการใช้ฟิลเตอร์ราคาถูก
เลือกซื้อฟิลเตอร์ที่ได้คุณภาพมาตรฐานสำหรับผู้ที่ใช้เครื่องชงกาแฟ ดูข้อมูลการชงกาแฟแบบต่างๆที่นี่ > การชงกาแฟแบบต่างๆ ควรเลือกซื้อฟิลเตอร์ที่มีคุณสมบัติ oxygen-bleached หรือ dioxin-free แต่ถ้าต้องการลงทุนหรืออยากได้คุณภาพกาแฟที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้เลือกใช้ฟิลเตอร์ที่ทำมาจากทองคำ
7. ใ้ช้กาแฟบดให้ตรงกับปริมาณการชง
การใช้ปริมาณกาแฟบดที่ถูกต้องนั้นจะช่วยให้ได้กาแฟที่มีรสชาติดี เช่น 2 ช้อนโต๊ะสำหรับกาแฟ 6 ออนซ์ หรือ 2 3/4 ช้อนโต๊ะสำหรับกาแฟ 8 ออนซ์ สำหรับเทคนิคที่ว่าใช้กาแฟไม่เยอะและใช้น้ำร้อนๆสกัดกาแฟให้ได้มากๆนั้นไม่ดี เพราะจะทำให้ได้กาแฟที่รสชาติแย่
8. ควบคุมอุณหภูมิของน้ำให้ดี
การใช้น้ำที่ร้อนเกินไปนั้นจะทำให้ได้กาแฟที่รสชาติที่ขมเกินไป ควรใช้น้ำที่อุณหภูมิ 200 องศาฟาเรนไฮต์ประมาณ 93.3 องศาเซลเซียส หรือ ปิดไฟตั้งทิ้งไว้ประมาณ 45 วินาทีหลังจากที่น้ำเดือด สำหรับการนำกาแฟที่ชงแล้วมาอุ่นนั้นก็จะทำให้ไม่ได้รสชาติเหมือนที่ชงเสร็จใหม่ๆเช่นกัน
9. ทำความสะอาดอุปกรณ์ชงกาแฟอย่างสม่ำเสมอ
เครื่องชงกาแฟ เครื่องบดกาแฟต่างๆต้องถอดล้างให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะถ้าไม่ถอดล้างเลย น้ำมันของกาแฟที่ตกค้างอยู่จะสะสม ทำให้รสชาติของกาแฟที่ชงแก้วต่อๆมานั้นเสียไปได้
Cr:: http://www.thaicoffeelove.com